ออมสิน ปล่อย สินเชื่อใหม่ ไตรมาส 1 ปี 65 รวม 9.5 หมื่นล้าน

ออมสิน ปล่อย สินเชื่อใหม่ ไตรมาส 1 ปี 65 รวม 9.5 หมื่นล้าน

ธ. ออมสิน ทำการประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 65 โดยได้ทำการปล่อย สินเชื่อใหม่ เป็นวงเงินรวม 9.5 หมื่นล้าน โดยเน้นไปที่รายย่อย และผู้ประกอบการ ออมสิน, สินเชื่อใหม่ – (20 เม.ย. 2565) นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรก ปี 2565 ธนาคารออมสินได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ตกงานหรือขาดรายได้ ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

โดยธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 95,500 ล้านบาท 

ทั้งสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อภาครัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 รวมกว่า 370,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาล โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาทิ สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ จำนวน 33,000 ราย ปล่อยสินเชื่อรวม 1,600 ล้านบาท พร้อมกับอบรมทักษะอาชีพภายใต้โครงการออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพ ได้มากกว่า 16,200 ราย และสินเชื่อห่วงใย (เพื่อสู้ภัยโควิด-19) เพื่อช่วยเหลือกลุ่มประชาชนรายย่อยที่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ได้มีเงินหมุนเวียนใช้สอยในครอบครัวอีกกว่า 50,000 ราย ซึ่งรวมถึงการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถผ่านพันธมิตรของธนาคารด้วย เป็นต้น

สำหรับด้านการบริหารจัดการหนี้ ได้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ได้รับการผ่อนปรนอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรการปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน ซึ่งในไตรมาสแรก ปี 2565 ธนาคารปรับโครงสร้างหนี้ได้ 260,000 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 190,000 ล้านบาท ขณะที่จำนวนผู้ขอปรับโครงสร้างหนี้ลดลงจากเดิม เมื่อเทียบกับช่วงสถานการณ์โควิดปี 2563 ที่มียอดถึง 800,000 ราย ซึ่งถือว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น

ทั้งจากมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ ของรัฐบาล และสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกหนี้มีศักยภาพกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ได้มากกว่า 447,000 ราย ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPLs อัตราเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยจาก 2.5% เป็น 2.6% ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยแนวโน้มหรือทิศทางของหนี้เสีย ยังอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถบริหารจัดการได้

โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ธนาคารมียอดสินทรัพย์รวม 2,962,012 ล้านบาท ยอดเงินฝากรวม 2,513,919 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อรวม 2,185,558 ล้านบาท มีระดับความแข็งแกร่งพิจารณาจากอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ร้อยละ 16.22 ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในภาพรวมของไตรมาสแรก ปี 2565 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564

ก. แรงงาน เตือน! มิจฉาชีพ หลอกขโมยเงิน วีซ่าทำงานไต้หวัน

รมว. แรงงาน ได้ออกโรงเตือนถึงภัย มิจฉาชีพ ที่ได้มีการหลอกลวงขโมยเงินโดยแอบอ้างว่าเป็นค่า วีซ่าทำงานไต้หวัน โดยมีมูลค่าเสียหายร่วมล้านกว่าบาท

วีซ่าทำงานไต้หวัน – (22 เม.ย. 2565) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย ขณะนี้มีผู้หลอกลวงคนหางานไปทำงานต่างประเทศผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยใช้แพลตฟอร์ม Facebook ชักชวนคนหางาน อ้างว่าสามารถจัดทำวีซ่าให้ไปทำงานที่ไต้หวันได้ พร้อมจะอำนวยความสะดวกเรื่องสถานที่กักตัว และเก็บค่าดำเนินการคนละ 30,000 บาท โดยหลังรับเงินจากผู้เสียหายแล้ว กลับเงียบหายเพราะไม่สามารถพาไปทำงานไต้หวันได้จริง ทำให้มีผู้เสียหาย จำนวน 50 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท จึงได้สั่งการให้กรมการจัดหางานเร่งตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้มีพฤติการณ์หลอกลวงอย่างถึงที่สุด เกี่ยวกับเรื่องนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงาน ให้ความสำคัญกับปัญหาคนหางานถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศมาโดยตลอด เพราะนอกจากจะทำให้คนหางานเสียทรัพย์สิน เสียโอกาสในการทำงาน ยังเสี่ยงต่อการเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ด้วย ซึ่งกระทรวงแรงงานจะดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างเข้มงวด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว “กระทรวงแรงงานมีนโยบายสำคัญในการคุ้มครองคนหางานจากการถูกหลอกลวง และเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งรวมถึงการโฆษณาจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน มีความผิดตามระเบียบกระทรวงแรงงาน ว่าด้วยการโฆษณาการจัดหางานต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานรับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้หลอกลวงต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาแล้วในความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 91 ตรี ข้อหา “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง” และศาลจังหวัดนครราชสีมาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายของพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้กรมการจัดหางานมีภารกิจหลักในการส่งเสริมการไปทำงานต่างประเทศรวมไปถึงการคุ้มครองคนหางาน ขอย้ำว่าการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายมี 5 วิธี

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป