เปิดประวัติ “สุรชาติ เทียนทอง” ว่าที่ส.ส.หลักสี่-จตุจักร สมัย 2 ลูก “ป๋าเหนาะ” ดีกรีนักเรียนนอก อดีตขุนพล บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หลังจากผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 9 กรุงเทพมหานคร(กทม.) หลักสี่-จตุจักร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 1 ด้วยคะแนน 29,416 คะแนน คว้าเก้าอี้ส.ส.ไปครองได้สำเร็จ
สุรชาติ กล่าวหลังผลเลือกตั้งซ่อมไม่เป็นทางการว่า
การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นความสำคัญ เพราะเป็นการคืนศักดิ์ศรีให้คนหลักสี่-จตุจักร แสดงให้เห็นว่าถ้ามีใจมุ่งมั่นรับใช้ประชาชน ผ่านไปสักกี่ครั้ง ประชาชนจะให้โอกาสเสมอ นอกจาก สุรชาติ เทียนทอง จะนำชัยชนะมาสู่พรรคเพื่อไทยแล้ว ผลเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ยังเป็นการเพิ่มเก้าอี้ ส.ส.ขึ้นมาอีก 1 ตัว ให้กับฝ่ายค้าน สำหรับการเป็นอีก 1 เสียง ที่จะร่วมซักฟอก ตรวจสอบการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม และในโอกาสนี้จึงขอพาไปทำความรู้จักกับว่าที่ ส.ส.ป้ายแดงพื้นที่ กทม. เขต 9 “จตุจักร-หลักสี่” กันให้มากขึ้น
“อ๊อบ” สุรชาติ เทียนทอง อายุ 42 ปี บุตรชายคนที่ 3 ของ “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง อดีต ส.ส. หลายสมัย และรัฐมนตรีหลายกระทรวง และนางจิตรา โตศักดิ์สิทธิ์ สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านการเงินและการจัดการ ปริญญาโทสาขาผู้นำองค์กร จากมหาวิทยาลัยจอห์นสัน แอนด์ เวลส์ ของสหรัฐ หลังจากนั้นได้ทำงานเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
ขณะที่เส้นทางบนถนนการเมือง สุรชาติ เทียนทอง ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคประชาราช แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ต่อมาในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 เขาพร้อมทั้งครอบครัวได้ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย และได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก โดยสามารถเอาชนะนายสกลธี ภัททิยกุล จากพรรคประชาธิปัตย์ และนางสาวศุภมาศ อิศรภักดี จากพรรคภูมิใจไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้
ขณะที่ตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ที่ สุรชาติ ผ่านการดำรงตำแหน่งมามีทั้ง รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 11 และอดีตโฆษกคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม, สภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง, ผู้อำนวยการสถานีทราเวล แชนแนล ไทยแลนด์
ทิ้งท้ายด้วย คำกล่าวขอบคุณของ สุรชาติ เทียนทอง หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม “ผมมุ่งมั่นตั้งใจ ต่อให้เป็น 1วัน 1เดือนหรือ 1ปีที่มีโอกาสเป็นผู้แทนราษฎรของ ปชช. จะทำทุกวันให้มีคุณค่าให้สมกับพี่น้องไว้วางใจและจะเป็นผู้แทนราษฎรของคนทุกคน ทั้งที่เลือกและไม่เลือกผม อย่างเท่าเทียม สุดความสามารถทั้งในและนอกสภา” สุรชาติ เทียนทอง ว่าที่ ส.ส.กทม. กล่าวขอบคุณ ปชช.
ประยุทธ์ โชว์สกิล คุยกับม้า เป็นภาษาอังกฤษ ขณะเยือนซาอุฯ
ประยุทธ์ โชว์ทักษะ คุยกับม้า เป็นภาษาอังกฤษ ขณะเยือนซาอุดีอาราเบีย เกือบโดนม้ากินมือถึงกับต้องร้อง เฮ้ย วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดังได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊ก วินาทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พูดคุยกับม้าเป็นภาษาอังกฤษ ขณะที่เดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อช่วงวันที่ 25-26 ม.ค. ที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า “The day before, I’m young” ก่อนลูบหัวม้า และป้อนอาหารม้า ซึ่งระหว่างที่ป้อนอาหารม้าก็แสดงความตกใจร้อง “เฮ้ยๆ!! มือฉัน” กลัวม้ากินมือ พร้อมพูดด้วยว่า “I love it” บอกว่าตนชอบม้า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระหว่างพลเอกประยุทธ์ เยี่ยมชม เมืองโบราณ มรดกโลก เขตอัล-ตุรออิฟ เมืองดีริยะห์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี 2553 ในระหว่างการเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ 25 มกราคม 2565
นอกจากนี้ ทำเนียบรัฐบาลยังได้เผยแพร่คลิปนายกรัฐมนตรีพูดกับนักศึกษาไทยในซาอุดีอาระเบีย โดยพลเอกประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลนี้ได้ดำเนินการหลายปี และได้เห็นถึงปัญหาเกิดขึ้น ก็ได้ครุ่นคิดหาวิธีการในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้เท่าเดิมได้และดีกว่าเดิม
โดยมีความพยายามดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 จนวันนี้ มีสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาดห์ เมืองหลวงของประเทศซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่ต้องใช้เวลาคืนสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียนานถึง 30 ปี
การที่ได้เสนอตัวเป็นหนึ่งในตัวเลือกให้พี่น้องประชาชน ท่ามกลางผู้สมัครที่มีคุณภาพจากทุกพรรคการเมือง ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมาก ดังนั้นจึงขอให้ชัยชนะในครั้งนี้เป็นชัยชนะที่ชนะไปด้วยกัน ขอขอบคุณผู้สมัครจากทุกพรรคการเมืองที่ออกไปหาเสียงและทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์
ขอบคุณพี่น้องประชาชนและพี่ป้าน้าอาทุกท่านที่ตลอดเวลาคอยเป็นกำลังใจให้ผม แม้ในวันที่ผมพ่ายแพ้ ผิดหวัง และขอบคุณทีมงานจากหัวใจ ทุกคะแนนเสียงได้แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ แรงงาน ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น สองมือสองเท้าและหัวใจ ที่ร่วมกันลงพื้นที่ไปพบพี่น้องประชาชนทุกวัน
“ผมมุ่งมั่นตั้งใจว่า ต่อให้เป็นหนึ่งวัน หนึ่งเดือนหรือหนึ่งปี ที่มีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งผู้แทนราษฎรของประชาชน ผมจะทำทุกวันให้มีคุณค่าให้สมกับพี่น้องประชาชนไว้วางใจ และจะเป็นผู้แทนราษฎรของคนทุกคน ทั้งที่เลือกและไม่เลือกผม แต่ผมจะรับใช้ทุกคนอย่างเท่าเทียม อย่างสุดความสามารถทั้งในสภาและนอกสภา”
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป